คำอธิบาย
Robert Mondavi Napa Valley Cabernet Sauvignon เป็นไวน์แดงชั้นเลิศที่ผลิตโดย Robert Mondavi Winery หนึ่งในไร่องุ่นที่มีชื่อเสียงที่สุดในหุบเขา Napa Valley แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ไวน์รุ่นนี้เป็นตัวแทนของไวน์คุณภาพสูงจาก Napa Valley ที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของ Robert Mondavi ในการผลิตไวน์ระดับโลกจากแคลิฟอร์เนีย ด้วยการผสมผสานระหว่างเทคนิคการทำไวน์แบบดั้งเดิมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้ได้ไวน์ที่มีความสมดุล ซับซ้อน และสะท้อนถึงเอกลักษณ์ของ terroir ใน Napa Valley
รางวัลและคะแนนที่ได้รับ (Reward & Score)
- Wine Spectator: 92 คะแนน (วินเทจ 2018)
- James Suckling: 93 คะแนน (วินเทจ 2018)
- Wine Enthusiast: 91 คะแนน (วินเทจ 2017)
- Robert Parker’s Wine Advocate: 90-92 คะแนน (วินเทจ 2016)
- Decanter World Wine Awards: เหรียญเงิน (วินเทจ 2015)
ประวัติความเป็นมา วิธีการผลิตและแหล่งกำเนิด (History)
Robert Mondavi Winery ก่อตั้งขึ้นในปี 1966 โดย Robert Mondavi ผู้ซึ่งมีวิสัยทัศน์ในการยกระดับคุณภาพและชื่อเสียงของไวน์แคลิฟอร์เนียสู่ระดับโลก Napa Valley Cabernet Sauvignon ผลิตจากองุ่นที่ปลูกในไร่องุ่นชั้นนำทั่ว Napa Valley โดยใช้องุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon เป็นหลัก (ประมาณ 85-90%) และอาจมีการเพิ่มองุ่นพันธุ์อื่นๆ เช่น Merlot, Cabernet Franc หรือ Petit Verdot ในสัดส่วนเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความซับซ้อน หลังการหมัก ไวน์จะถูกบ่มในถังโอ๊คฝรั่งเศสเป็นเวลา 16 เดือน โดยเป็นถังใหม่ประมาณ 25% ซึ่งช่วยเพิ่มความซับซ้อนและโครงสร้างให้กับไวน์
ลักษณะรสสัมผัสและกลิ่น (Palate & Aroma)
Robert Mondavi Napa Valley Cabernet Sauvignon มีสีแดงทับทิมเข้ม กลิ่นหอมซับซ้อนของผลไม้สีดำสุก เช่น แบล็คเบอร์รี่และแบล็คเคอแรนต์ ผสานกับกลิ่นของเครื่องเทศ ช็อกโกแลต และกลิ่นไม้โอ๊คที่นุ่มนวล อาจพบโน้ตของวานิลลา ยาสูบ และกาแฟคั่วเล็กน้อย ในปากให้รสสัมผัสที่เต็มตัว (full-bodied) ด้วยแทนนินที่เข้มข้นแต่นุ่มนวล รสชาติของผลไม้สุกเด่นชัด ตามด้วยโน้ตของเครื่องเทศและช็อกโกแลต มีความสมดุลที่ดีระหว่างความเปรี้ยวสดชื่นและความหวานของผลไม้ จบด้วยรสสัมผัสที่ยาวนานและซับซ้อน
อาหารที่เหมาะสมในการจับคู่ (Food Pairing)
Robert Mondavi Napa Valley Cabernet Sauvignon เข้ากันได้ดีกับอาหารหลากหลายประเภท โดยเฉพาะอาหารที่มีรสชาติเข้มข้น เช่น สเต๊กเนื้อวัว ซี่โครงแกะอบ เนื้อวัวตุ๋น หรือเนื้อสัตว์ป่า นอกจากนี้ยังเข้ากันได้ดีกับชีสที่มีรสจัด เช่น Aged Cheddar หรือ Blue cheese รวมถึงอาหารที่มีเห็ดเป็นส่วนประกอบหลัก เช่น ริซอตโต้เห็ด ความเข้มข้นและโครงสร้างของไวน์ช่วยตัดไขมันและเสริมรสชาติของอาหารได้อย่างลงตัว
อุณหภูมิที่เหมาะในการเสิร์ฟ (Serving)
เพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด ควรเสิร์ฟ Robert Mondavi Napa Valley Cabernet Sauvignon ที่อุณหภูมิประมาณ 16-18 องศาเซลเซียส (60-64 องศาฟาเรนไฮต์) แนะนำให้เปิดขวดล่วงหน้าประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงก่อนดื่ม หรืออาจใช้เครื่องดีแคนต์ (decanter) เพื่อให้ไวน์ได้สัมผัสกับอากาศ ซึ่งจะช่วยให้กลิ่นและรสชาติของไวน์เปิดตัวอย่างเต็มที่ การใช้แก้วไวน์ทรงใหญ่ เช่น แก้วบอร์โดซ์ จะช่วยให้คุณได้ดื่มด่ำกับความซับซ้อนและคุณภาพของไวน์ได้อย่างเต็มที่